โรคสมาธิสั้น ปล่อยไว้คงไม่ดีแน่
ความคิด พฤติกรรม และพัฒนาการของลูกคุณสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติได้ ง่ายๆเพียงคุณลองสังเกตลูกคุณให้ดี บางทีลูกคุณอาจเป็นเด็กสมาธิสั้นก็ได้ ถ้าปล่อยไว้นานคงไม่ดีแน่ วันนี้เราจะมาบอกวิธีสังเกตว่าความคิดและพฤติกรรมแบบไหนของลูกคุณที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมาธิสั้นได้บ้าง
โรคสมาธิสั้นเป็นอาการผิดปกติทางจิตเวช ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นได้ตั้งแต่ยังเด็ก โดยเด็กสมาธิสั้นจะมีความซุกซนมาก ไม่ค่อยอยู่นิ่ง เวลาที่คุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูพูดจะไม่ค่อยตั้งใจฟัง ไม่สนใจ ซึ่งอาการสมาธิสั้นส่วนใหญ่พบได้ในเด็กอายุ 3 – 7 ปี แต่คุณจะเห็นการแสดงออกที่ชัดเจนในช่วงอายุ 7 ขวบขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่เวลาส่วนใหญ่ของเด็กอยู่กับโรงเรียน หากลูกของคุณมีพฤติกรรมหรืออาการต่างๆ ดังต่อไปนี้ มีสิทธิที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้นได้
1. ไม่สนใจฟังในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูกำลังสอนหรือบอก เมื่อคุณกำลังพูดหรือสอนลูกคุณอยู่ ถ้าหากลูกของคุณไม่สนใจฟัง ถามแล้วก็ไม่เข้าใจ เบี่ยงเบนความสนใจไปที่สิ่งอื่น อาการเหล่านี้ลูกของคุณมีสิทธิ์เป็นโรคสมาธิสั้นได้
2. มีอาการวอกแวก อยู่ไม่นิ่ง อยู่ไม่สุข ซุกซนมากกว่าเด็กปกติทั่วไป พฤติกรรมเหล่านี้อาจจะดูเหมือนเป็นพฤติกรรมของเด็กทั่วไป แต่ถ้าคุณลองสังเกตดีๆ ลูกคุณอาจจะไม่เหมือนเด็กทั่วไปก็ได้ อาจจะเป็นโรคสมาธิสั้นได้ ทางที่ดีปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกไว้ก่อนดีกว่า ป้องกันไว้ดีกว่าปล่อยไว้ให้อาการหนักคงไม่ดีแน่
3. มักไม่สนใจเรียน ห่วงแต่จะเล่น ชวนเพื่อนคุยตลอดเวลาเรียน ไม่ชอบทำการบ้านที่คุณครูสั่ง มีเปอร์เซ็นต์ที่ลูกของคุณจะสมาธิสั้นได้ ถ้าปล่อยไว้นานคงไม่ดีแน่
4. เป็นคนที่จำอะไรเยอะๆไม่ได้ ไม่ใส่ใจรายละเอียด ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มักจะได้รับการป้อนข้อมูลหนักๆไม่ได้ เรียนหนักๆไม่ได้ ถามซ้ำไปซ้ำมาก็ยังไม่เข้าใจ อาการแบบนี้อาจเป็นเด็กสมาธิสั้นได้
หากคุณไม่สบายใจที่ลูกของคุณเป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่ต้องกำวัลไปเพราะอาการสมาธิสั้นสามารถแก้ไขได้ เพียงคุณเข้ามาที่ สถาบัน BrainFit Studio มีหลักสูตรที่สามารถช่วยพัฒนาสมาธิของลูกคุณให้ดีขึ้นได้ ด้วยวิธีการที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นโดยเฉพาะ ช่วยพัฒนา สมาธิ ความจำ ความเร็วในการคิด และความสามารถในการเรียงลำดับก่อนหลังด้วยวิธีการที่ถูกต้อง คุณจะรู้สึกได้จากการเปลี่ยนแปลงของลูกคุณ