• English
  • ภาษาไทย

สภาพแวดล้อมมีผลโดยตรงกับเด็กสมาธิสั้น

คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองอาจจะยังไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมมีผลโดยตรงกับเด็กสมาธิสั้น ไม่ว่าจะเป็นสีสันของห้องบ้าง ควันบุหรี่บ้าง หรือแม่แต่เกมในโทรศัพท์มือถือ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่าสภาพแวดล้อมมีผลกับเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นอย่างไรบ้าง  

ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมของสังคมเราในปัจจุบันมีส่วนทำให้ดูแลเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นได้ยากขึ้น เพราะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคุณพ่อคุณแม่ที่มักจะปล่อยให้ลูกเล่นเกมในโทรศัพท์บ้าง ให้เล่นแทปเล็ตบ้าง เพื่อหวังให้เด็กสมาธิสั้นอยู่นิ่งๆ จะได้ไม่มากวนใจ การที่เด็กที่มีอาการสมาธิสั้นเขานิ่งกับการเล่นเกม หรือดูสื่อต่างๆในแทปเล็ต การที่ลูกจดจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านี้นานๆ จะทำให้ลูกติด ขาดการปฏิสัมพันธ์ภายในครอบครัว หงุดหงิดเมื่อไม่ได้เล่น ทำให้อาจส่งผลในอนาคต ต้องทำความเข้าใจการว่า เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น มักจะควบคุมตนเองไม่ได้ โดยกลุ่มอาการที่มักพบบ่อยๆ มี 2 กลุ่มคือ

     1. กลุ่มอาการสมาธิสั้น (Inattention) สังเกตได้ว่าเด็กมักจะวอกแวกง่าย เหม่อลอย ขี้หลงขี้ลืม ไม่มีความเป็นระเบียบวินัย เรียงลำดับไม่ได้ว่าควรทำอะไรก่อน ทำอะไรหลัง จดจ่ออะไรได้ไม่นาน ไม่มีสมาธิ

     2. กลุ่มอาการซนมากกว่าปกติและหุนหันพลันแล่น (Hyperactivity/impulsivity) เด็กในกลุ่มนี้จะมีความซนมากกว่าปกติ อยู่นิ่งไม่ได้ ลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา อยู่ไม่เป็นสุข ต้องวิ่ง ต้องเดินขยับไปขยับมา

หวังว่าทุกคนคงจะรู้แล้วว่าสภาพแวดล้อมมีผลโดยตรงกับเด็กสมาธิสั้น สิ่งไหนที่พอจะปรับได้ให้ลองปรับใช้ดู เพื่อลูกของเราจะได้มีอาการสมาธิสั้นที่ดีขึ้น แต่ถ้าอยากให้เด็กสมาธิสั้นมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ลองให้มาเข้าคอร์สฝึกสมาธิสั้นที่สถาบัน BrainFit Studio ดู เพราะมีหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อผู้เป็นโรคสมาธิสั้นโดยเฉพาะ คุณจะเห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นของลูกคุณ